bfm43

Ghost Lab ว่าด้วยเรื่องราวของหมอสองคนเพื่อนรัก หมอชีวี (ต่อ ธนภพ) หมอที่ตั้งแต่เรียนจบมาก็ต้องคอยดูแลแม่ที่นอนไม่รู้สึกตัวอยู่ในโรงพยาบาล หมอชีวีเป็นหมอที่ค่อนข้างจะติดอยู่กับความรู้สึกรักและเป็นห่วงแม่ จนตัวเองแทบจะไม่ได้เจอผู้คนสักเท่าไหร่ ต่างจากหมออาจองหรือหมอกล้า(ไอซ์ พารีส) ที่ใช้ชีวิตปกติ มีแฟนสาวคือใหม่( ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์)

หมอกล้ามีความสนใจในเรื่องผีมาก เพราะเค้าฝังใจจากการได้เจอกับผีของพ่อหลังจากที่พ่อตายไปเมื่อยี่สิบปีก่อน เค้าพยายามศึกษาเรื่องผีมาตลอด แต่ก็ไม่เคยเจอผีเลย จนหมอชีวี กับ หมอกล้า ได้มาเจอผีพร้อมกันในโรงพยาบาล ทั้งสองคนเลยตัดสินใจจะทดลองร่วมกันเพื่อค้นหาการปรากฏตัวของผีให้ได้ แต่ไม่ว่าจะทำการทดลองอย่างไรก็ดูจะไม่ประสบผลสำเร็จดังที่ใจต้องการ ทั้งสองมองไม่เห็นทางอะไรนอกจากจะต้องล้ำเส้นความตาย คือจะต้องทดลองตายไปสักคนเพื่อให้คนๆนั้นข้ามจากโลกความตายเพื่อกลับมาร่วมทดลองกันใหม่ และนั่นจึงเป็นที่มาที่ไปของความหายนะมหาศาลที่ตามมา

ทฤษฎีการปรากฏตัวของผีอันเนื่องมาจากความคิดด้านลบ เช่นความเป็นห่วง ความแค้น เนี่ย มันเป็นไปตามหลักพุทธศาสนาเลยนะครับ คือคนเรามี ห่วง ถึงก่อให้เกิดพลังและแรงขับเคลื่อนต่างๆนาๆ แม้จะต่างภพต่างภูมิ ก็ยังคงห่วงหาอาทร เมื่อไหร่ที่หมดห่วงจึงไปผุดไปเกิด ผู้ร่วมทดลองเองเมื่อเห็นจุดอ่อนของผี จึงพยายามสร้างแรงขับทางลบให้ผีกลับมาแสดงตัวตนให้ได้ ส่วนหนึ่งเราเข้าใจนะครับ เพราะมันเป็นคำมั่นสัญญาว่าจะทดลองร่วมกันให้สำเร็จ ก็ต้องทำให้ได้

แต่ความสมเหตุสมผลมันน้อยมากครับ มันแทบไม่มีคอมมิตเมนท์ใดๆเลยว่าตายแล้วจะกลับมาได้ ตายแล้วมันก็คือตายครับ และมันไม่มีแรงจูงใจอะไรที่เราคิดว่ามันหนักแน่นพอที่จะทำให้คนยอมตายเพื่อการทดลองได้เลย Passion ที่เราเห็นก็เป็นเพียงแค่การแสดงที่เรารู้สึกว่าหมอกล้ามันโอเวอร์แอ๊คติ้งจนเรารู้สึกเท่านั้นเอง แต่หลักการ ทฤษฎี เหตุผลมันเบาบางเหลือเกิน เอาจริงๆมันมีเส้นเรื่องอีกเส้นเรื่องที่ว่าด้วยเรื่องของเด็กผู้หญิงที่เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ที่สองคนวางแผนจะไปจีบเพื่อให้เธอตายแล้วกลับมานั่นยังดูเป็นเส้นเรื่องที่น่าสนใจมากกว่าด้วยซ้ำครับ แต่เสียดายที่หนังทิ้งประเด็นนี้ไปอย่างไม่ใยดีเลย ชอบการตั้งชื่อตัวละครมันค่อนข้างสื่อความหมายนะครับอยากพระเอกชื่อชีวีก็แสดงว่าเป็นคนที่เห็นคุณค่าของการมีชีวิต ในขณะที่อีกคนหนึ่งชื่ออาจอง ชื่อเล่นชื่อกล้านั่นก็คือแสดงถึงความกล้าหาญนั่นแหละ

คะเเนน : 7/10