The Addams Family การกลับมาของครอบครัวสายเพี้ยน ในเวอร์ชั่นแอนิเมชั่น
จากหนังเรื่องดังในปี 1991 ที่ว่าด้วยครอบครัวสุดเพี้ยนที่หลงใหลในความรุนแรงสุดประหลาด กลับมาขึ้นจอใหญ่อีกครั้งในฐานะแอนิเมชั่นสำหรับทุกคนในครอบครัว ซึ่งแน่นอนว่าหนังจะถูกพาสเจอร์ไรซ์ใหม่ให้ดูประเด็นบางเบาลงและไม่เป็นพิษภัยสำหรับเด็กๆ
ต้นกำเนิดของ The Addams Family
The Addams Family เป็นผลงานการวาดของ “ชาร์ล อดัมส์” ในปี 1938 ซึ่งได้รับการตีพิมพ์ลงนิตยสารวาไรตี้อย่าง The New Yorker จนกระทั่งมีการดัดแปลงเป็นทีวีซีรีส์ครั้งแรกในปี 1964-1966 ก่อนที่จะได้รับการดัดแปลงเป็นเวอร์ชั่นภาพยนตร์ในปี 1991 ซึ่งในเวอร์ชั่นนี้น่าจะเป็นเวอร์ชั่นที่ทำให้คนทั่วโลกได้รู้จักกับครอบครัว “อาดัมส์” มากยิ่งขึ้น
การกลับมาขึ้นจอใหญ่ครอบครัวคนเพี้ยน
ครอบครัวอาดัมส์ ประกอบไปด้วยสมาชิกอย่าง โกเมซ, มอร์ติเซีย, พักส์ลีย์, เวนส์เดย์, ลุงเฟสเตอร์และคุณย่า พวกเขาเป็นครอบครัวที่พิลึกพิลั่นที่สุดในคฤหาสน์ซอมซ่อที่อยู่บนยอดเขาที่ปกคลุมไปด้วยหมอกในนิวเจอร์ซีย์ (รัฐบ้านเกิดของผู้สร้างชาร์ล อดัมส์) โกเมซและมอร์ติเซีย ที่ใช้ชีวิตแบบอาดัมส์ของพวกเขาอย่างแสนสุขมาหลายปี และกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการมาเยือนจากญาติคนอื่นๆ ของพวกเขาสำหรับ “ซาเบร มาเซอร์ก้า” ของพักส์ลีย์ มันเป็นพิธีการเติบโตเป็นผู้ใหญ่เพื่อพิสูจน์ว่าเขาพร้อมที่จะเป็นผู้ใหญ่ในครอบครัวอาดัมส์แล้ว
สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือ เพื่อนบ้านที่อยู่ตีนเขาของพวกเขา มาร์โกซ์ นีดเลอร์ เจ้าแม่ด้านการออกแบบคนดังแห่งแวดวงจอแก้ว กำลังสร้างหมู่บ้านจัดสรรขึ้นมา ด้วยการใช้เทคนิคสีสันโดดเด่นและความสมบูรณ์แบบ เมื่อหมอกจางลง มาร์โกซ์ก็รู้สึกหดหู่เมื่อได้เห็นคฤหาสน์ของครอบครัวอาดัมส์ มันเป็นสิ่งเดียวที่ขวางกั้นเธอจากความฝันของเธอในการขายบ้านทุกหลังในย่านนี้และความเป็นที่ชื่นชอบในฐานะคนดังแห่งโลกจอแก้วตลอดกาล
ระหว่างที่พักส์ลีย์กำลังลำบากอยู่กับการเรียนรู้พิธี “ซาเบร มาเซอร์ก้า” ที่ซับซ้อน เวนส์เดย์เองก็พบว่าตัวเองต้องลำบากกับการเติบโตเป็นผู้ใหญ่เช่นกัน เธอผูกมิตรกับปาร์คเกอร์ ลูกสาวของมาร์โก้และผลักดันทั้งขอบเขตและความอดทนของมอร์ติเซียด้วยการทำในสิ่งที่ “ปกติ” เช่นการเรียนโรงเรียนรัฐบาล การเป็นเชียร์ลีดเดอร์และการสวมหมวกเบเรต์สีชมพู ซึ่งขัดจริตของพวกเขาอย่างสิ้นเชิง
การย้อนกลับไปที่ต้นกำเนิด
สำหรับกุญแจสำคัญในการสร้าง The Addams Family อีกครั้งคือการพาผู้ชมย้อนกลับไปยังต้นกำเนิดในรูปแบบเดียวกับการ์ตูนสยองขวัญใน The New Yorker ที่มีความน่าขนลุกพิลึกพิลั่น ตั้งแต่ยุค 30s เป็นต้นมา ลายเส้นที่คงสไตล์ความมืดหม่น ได้ทำให้งานของเขาได้รับความชื่นชอบ ประกอบกับธีมของเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความมืดหม่น การตัดกันระหว่างเรื่องของแสงสว่างและความมืด รวมไปถึงมุกตลกร้ายที่แปลกใหม่ในยุคสมัยนั้น
The Addams Family ไม่เคยเป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นมาก่อน ทีมงานต้องทำการบ้านหนักยิ่งขึ้น เมื่อเรื่องราวอันโด่งดังนี้ ล้วนเป็นที่รักของผู้ชมในฐานะทั้งภาพยนตร์ไลฟ์แอ็คชั่น ทีวีซีรีส์ รวมไปถึงบรอดเวย์มิวสิคัลมาแล้ว ทีมผู้สร้างจึงตัดสินใจจะพาผู้ชมหวนรำลึกความหลัง ซึ่งนี่ไม่ใช่การรีบูตเรื่องราว แต่เป็นการพาคนดูกลับไปยังเวอร์ชั่นการ์ตูนต้นฉบับเพื่อเริ่มนับหนึ่งที่จุดเริ่มต้น ว่าครอบครัวนี้มารวมตัวกันได้อย่างไร
เรื่องราวในเวอร์ชั่นนี้จะมีการพาคนดูไปทำความรู้จักว่าตัวละครอย่างโกเมซและมอร์ติเซียพบกันได้อย่างไรและพวกเขามาอยู่ในบ้านหลังนี้ได้อย่างไร รวมไปถึงทีมงานต้องการเนรมิตครอบครัวนี้ให้มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น เพราะต้องเล่าเรื่องราวของครอบครัวที่ไม่ได้มีชีวิตจริงอยู่ในโลกของเรา ใน The Addams Family มีการออกแบบสร้างต้นไม้ที่เคลื่อนไหวได้ ซองจดหมายพูดได้ โต๊ะมีชีวิตเคลื่อนที่ไปมา หัวขนาดจิ๋วที่กระโดดขึ้นลงและร้องเพลงได้ ซึ่งในเวอร์ชั่นภาพยนตร์และซีรีส์อาจจะลำบากในการนำเสนอภาพแฟนตาซีเหล่านี้ออกมา
นี่คือหนังที่สามารถดูเพลิดเพลินกันได้ทั้งครอบครัว
สิ่งที่ทีมงานตั้งใจคือหนังเรื่องนี้จะไม่ได้เหมาะสำหรับแค่เด็กอายุ 6 ขวบเท่านั้น แต่คนอื่นๆในครอบครัวจะต้องดูแล้วรู้สึกสนุกและเพลิดเพลินไปด้วย เนื่องจากฉากหลังของเรื่องจะย้อนกลับไปถึงยุค 30s ดังนั้นน่าจะมีคนอายุถึง 90 ปีที่ต้องเคยรู้จัก The Addams Family ดังนั้นหนังเรื่องนี้จึงต้องเข้าถึงทุกเพศทุกวัย คนดูจะต้องได้อะไรกลับไปจากการชมและมันต้องไม่ดูถูกสติปัญญาของผู้ชม
The Addams Family ต้องห่างไกลจากอารมณ์ขันแบบน่าแหวะ ครอบครัวอาดัมส์ไม่ใช่ปีศาจแบบแวมไพร์ มนุษย์หมาป่าหรือเฟรดดี้ ครูเกอร์ พวกเขาเป็นครอบครัวปกติธรรมดา ที่บังเอิญว่าสายตาในการมองโลกของพวกเขาไม่เหมือนคนอื่น
อย่างไรก็ตามทีมงานยังคำนึงในแง่ที่ว่าคนรุ่นใหม่บางส่วนอาจจะไม่รู้จักกับครอบครัวอาดัมส์ ทีมงานจึงต้องสร้างตัวละครเหล่านี้ให้ออกมาสามารถแบกรับเรื่องราวต้นฉบับซึ่งในเวอร์ชั่นนี้เรื่องราวจะเริ่มต้นจาก ความเป็นมาของมอร์ติเซียและโกเมซ ที่พวกเขาผันตัวจากการเป็นชาวบ้านที่ถือจอบถือเสียมไปสู่สถานบำบัดคนไข้โรคจิตที่กลายเป็นบ้านของครอบครัวอาดัมส์ ที่มีวิญญาณคอยตะโกนใส่พวกเขาอยู่บ่อยๆ ให้ “ไสหัวไป” และเลิร์ช บัตเลอร์สัตว์ประหลาด ท้ายที่สุดแล้ว พักส์ลีย์และเวนส์เดย์ก็ก้าวเข้ามา เช่นเดียวกับลุงเฟสเตอร์ มาจนถึงปัจจุบันนี้ ครอบครัวขยายครอบครัวนี้ก็ได้รับเชิญให้ไปที่บ้านเพื่อเฉลิมฉลองพิธีก้าวสู่ความเป็นผู้ใหญ่ของพักส์ลีย์หรือซาเบร มาซูร์ก้า ดังนั้น เราก็จะได้พบกับสมาชิกครอบครัวอาดัมส์ที่โด่งดังตั้งแต่คุณย่าไปจนถึงลูกพี่ลูกน้อง อิตต์ รวมถึงสมาชิกครอบครัวหน้าใหม่ด้วย