Zombieland: Double Tap การกลับมาของแก๊งป่วนก๊วนล่าซอมบี้

ปี 2009 Zombieland เป็นหนังซอมบี้ฟอร์มกลางที่มาพร้อมความแปลกใหม่ แทรกสอดอารมณ์ขันอันเต็มเปี่ยมรวมถึงแนวคิดที่น่าสนใจเอาไว้ตลอดรายทางของหนัง ทำให้ Zombieland ได้รับเสียงชื่นชมจากผู้ชม นักวิจารณ์ จนกลายเป็นหนังคัลท์สุดฮิตประจำปีนั้น และทำเงินไปทั่วโลกสูงถึง 102 ล้านเหรียญฯ

เกิดอะไรใน Zombieland

หนังเริ่มต้นด้วยวิกฤติวันโลกแตก เมื่อผู้คนในอเมริกาติดเชื้อซอมบี้จากการรับประทานแฮมเบอร์เกอร์จากเนื้อวัวบ้า ในสายตาของโคลัมบัส (เจสซี่ ไอเซนเบิร์ก) หนุ่มเนิร์ดผู้รอดชีวิตจึงเปลี่ยนชื่ออเมริกาใหม่เป็น “ซอมบี้แลนด์” โคลัมบัสได้พบกับหนุ่มวัยกลางคนนักล่าซอมบี้อย่าง ทาลาฮัสซี่ (วูดดี้ ฮาเรลสัน) และสองพี่น้องสาวสวยนักต้มตุ๋นอย่าง วิชิต้า (เอ็มม่า สโตน) และลิตเติ้ล ร็อค (อบิเกล เบรสลิน)

จุดเด่นของหนังภาคแรกคือการหยิบเอาขนบของหนังซอมบี้ในอดีตมายั่วล้อผ่านกฎ “ข้อควรปฏิบัติหากอยากมีชีวิตรอดจากซอมบี้” ตัวอย่างเช่น เวลาเจอซอมบี้ให้วิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต เวลาเข้าห้องน้ำคือจุดอ่อนของมนุษย์ที่ทำให้ซอมบี้โจมตี หรืออย่าริทำตัวเป็นพระเอกไม่งั้นคุณอาจจะตายได้ เป็นต้น

ด้วยสไตล์ความเป็นหนัง Road Movie (ตัวละครออกเดินทางผจญภัย) ใส่มุกตลก อารมณ์ขัน และเสน่ห์ของเหล่านักแสดง ทำให้ Zombieland กลายเป็นหนังซอมบี้ยุคใหม่ที่ผู้คนยังคงจดจำถึงทุกวันนี้

10 ปีที่คิดถึง

ความโกลาหลครั้งใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นหลังจากที่ไวรัสได้แพร่ระบาดไปทั่วหัวระแหงของอเมริกา นักล่าซอมบี้ทั้ง 4 ต้องเผชิญหน้ากับซอมบี้สายพันธุ์ใหม่ๆ ที่มีพัฒนาทางร่างกายเพิ่มมากขึ้นตลอดช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา นอกจากนี้พวกเขายังต้องรับมือกับมนุษย์ผู้รอดชีวิตคนอื่นๆอีกด้วย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือทั้ง 4 คนยังต้องรับมือกับความน่าปวดหัวภายในครอบครัวของพวกเขาเอง

ทำไมแฟนหนังต้องรอนานกว่า 10 ปี!

เหตุผลที่ Zombieland เป็นที่รักของผู้คนมากมาย เนื่องจากตัวหนังเองเต็มไปด้วยความอบอุ่น มันไม่ใช่หนังหนีตายจากซอมบี้ แต่มันพูดถึงความสัมพันธ์ของตัวละคร สำหรับบรรดาฉากแอ็คชั่นที่ปรากฏอยู่ในหนังเรื่องนี้เป็นเหมือนผงชูรส เพราะสิ่งที่ทีมผู้สร้างสนใจมากกว่าคือเคมีระหว่างที่นักแสดงนำทั้งสี่อยู่ร่วมกันมากกว่า

ช่วงเวลาตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ผู้กำกับรูเบน เฟลชเชอร์ เฝ้ารอบทภาพยนตร์ที่เหมาะกับการจะนำมาสร้างภาคต่อ เขามองว่าภาคสองที่จะออกมานั้นคุณภาพจะต้องดีกว่า หรือไม่ก็ต้องมีคุณภาพพอๆกับภาคแรกเท่านั้น ประกอบกับสองมือเขียนบทจากหนังภาคแรกอย่างเรทท์ รีส และพอล เวอร์นิค ที่มีงานเขียนบทรัดตัวมาก ทำให้ทั้งสองยังไม่มีเวลาในการสานต่อเรื่องราวจากภาคแรก

ท้ายที่สุดแล้วแม้ว่าตลอด 10 ปีจะมีบทภาคต่อออกมาหลายเวอร์ชั่น แต่ก็ยังไม่มีเวอร์ชั่นไหนเหมาะที่จะสานต่อเรื่องราวของ Zombieland ในภาคแรกได้เลย จนกระทั่งเรทท์ รีส และพอล เวอร์นิค รวมไปถึงเดฟ คัลลาแฮม กลับมาสานต่อเรื่องราวครั้งใหม่ออกมาเป็น Zombieland: Double Tap

โจทย์ในการสานต่อเรื่องราวจากภาคแรกคือการทำอย่างไรให้คนดูรู้สึกว่ามันเป็นความสมเหตุสมผลหลังจากที่ตัวละครหายจากจอไปกว่า 10 ปี และด้วยความที่หนังเป็นส่วนผสมระหว่างหนังตลก ดราม่าและโรแมนซ์ โทนเรื่องมีความละเอียดอ่อนมาก อีกทั้งหนังยังมีการอ้างอิงถึง เรื่องราวในซีรีส์ Walking Dead เหตุการณ์ในทำเนียบขาว ตลอด 10 ปีที่ผ่านมาหนังตระกูลซอมบี้มีการพัฒนาขึ้นเป็นอย่างมาก ทำให้ทีมงานต้องทำให้หนังมีความทันสมัยด้วยเช่นกัน

ในขณะที่ภาพยนตร์ภาคแรกให้ความสำคัญกับคนสี่คนที่ออกเดินทางท่ามกลางหายนะซอมบี้ ผู้ที่ท้ายที่สุดแล้วก็กลายเป็นครอบครัวต่างสายเลือดกัน ภาคสองจะให้ความสำคัญกับการประคับประคองครอบครัวนั้นให้อยู่ร่วมกัน คล้ายคลึงกับภาคแรก มือเขียนบทได้ทำให้ผู้ชมได้เห็นโลกที่ตั้งอยู่บนเส้นแบ่งระหว่างความน่าสะพรึงกลัวและความขำขัน ประกอบกับไอเดียที่ว่า โลกหลังหายนะยังคงเป็นสถานที่ที่วิเศษสุด แม้จะไร้ขื่อแปก็ตาม เมื่อลองจินตนาการภาพตามแล้ว เราสามารถขับรถเดินทางไปไหนก็ได้ ใช้ชีวิตอย่างไรก็ตาม หรือกระทั่งฆ่าคนตายโดยไม่ต้องคำนึงถึงอะไรเลย เราจะทำอะไรก็ได้ตามใจตัวเอง

รียูเนียนนักแสดงนำ

ถึงแม้ว่านักแสดงนำทั้งสี่คนอันประกอบไปด้วย เจสซี่ ไอเซนเบิร์ก วูดดี้ ฮาเรลสัน เอ็มม่า สโตน และ อบิเกล เบรสลิน จะไม่ได้แสดงด้วยกันกว่า 10 ปี แต่หลังจากที่พวกเขาร่วมงานกันในหนังภาคแรกและรู้สึกได้ว่าพวกเขาเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน ทำให้ทั้งสี่ติดต่อกันมาโดยตลอดทำให้เคมีระหว่างพวกเขาลงตัว

“เราต่างก็ยังคงสนิทสนมกัน มันก็เลยไม่ได้ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นการรวมตัวกัน แบบที่เราไม่ได้พูดคุยกันเลย ซึ่งรวมถึงรูเบนด้วย มันให้ความรู้สึกเหมือนการได้ใช้เวลาขลุกอยู่กับเพื่อนซี้และคุยเล่นหัวกันไปเรื่อย มันเป็นเรื่องพิเศษสุดจริงๆ และน่าชื่นใจจริงๆ ที่ได้อยู่กับทุกคนอีกครั้ง” เอ็มม่า สโตน ผู้เป็นคนแรกที่พูดถึงการครบรอบ 10 ปี กล่าว

“เอ็มมาบอกว่า ‘มันทำให้เกิดวัตถุประสงค์จริงๆ ขึ้นมา และคิดว่าเราน่าจะสร้าง Zombieland ทุกๆ 10 ปี’ น่ะครับ” รูเบน เฟลชเชอร์กล่าว “เราทุกคนต่างก็รู้ว่าวู้ดดี้จะมีอายุยืนกว่าเราทุกคน เราก็เลยสามารถสร้างหนังเรื่องนี้ได้ทุกๆ สิบปีจนกว่าพวกเราคนใดคนหนึ่ง ซึ่งอาจจะไม่ใช่วู้ดดี้ ตายไปก็ได้ ดังนั้น ผมก็เลยเห็นด้วยครับ”